หน้าเว็บ

April 25, 2015

Being a traveller not tourist.

TRAVELLER NOT TOURIST

ปล.ยืมรูปจาก tumblr

เชื่อสิ ว่าหลายคนต้องใฝ่ฝันที่จะได้เดินทางรอบโลก
ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ้าเราไม่ลงมือทำ มันก็คงเป็นได้แค่เพียงฝัน
ฉันถึงต้องเริ่ม... เริ่มออกเดินทาง :)

ฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้มีที่บ้านซัพพอร์ทเรื่องเงินในการไปเที่ยว(จริงๆคือไม่กล้าขอ)
ฉันจึงต้องเก็บออมในส่วนของเงินที่พ่อแม่ให้ใช้จ่ายในแต่ละเดือนไว้
ฉันต้องทำงานเพื่อเก็บส่วนนี้ไว้ไปเที่ยว ที่พูดมานั้น...
ฉันแฮปปี้กับการที่เป็นแบบนี้ เพราะพ่อแม่อยากสอนให้ฉันรู้จักคุณค่าของเงิน
ฉันต้องการเล่า เพื่ออยากให้คนที่มีฝันเหมือนกับฉันกล้าลงมือทำ

รอมีเงินก่อนค่อยเที่ยว แล้วเมื่อไรจะมี (?)
รอมีเวลาก่อนค่อยเที่ยว แล้วเมื่อไรจะมี (?)
เคยได้ยินบางคำพูดไหม 'ตอนเด็กมีเวลาก็ไม่มีเงิน ตอนโตมีเงินแต่ก็ไม่มีเวลา '
'กว่าจะมีเงินมีเวลาก็แก่เกินไปแล้ว สังขารไม่เอื้ออำนวย'

นี่คือสิ่งที่ฉันเตือนตัวเองเสมอ ฉันเถียงขาดใจเลย
เวลาคนเรามีเท่ากัน อยู่ที่การบริหารจัดการมากกว่า อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา
ไม่มีเงิน จริงๆคนเราก็ต้องมีเงินในการใช้จ่ายบ้างแหละ แต่อยู่ที่เราให้สัดส่วนกับตรงไหนมากกว่า
เพื่อนบางคนได้เงินไว้ใช้จ่ายแต่ละเกือนมากกว่าฉัน 4 เท่า กลับไม่มีเงินเก็บเลย
แต่ในทางกลับกัน ฉันมีทั้งเงินเก็บ,เงินสำหรับเที่ยว,เงินสำหรับซื้อของที่อยากได้
เพราะฉันคิดเสมอว่าเราต้องเก็บก่อนใช้ ไม่ใช่ใช้เหลือแล้วค่อยเก็บ

ตั้งใจจะพูดเรื่องเที่ยว ทำไมอยู่กลายมาประเด็นเรื่องออมเงินซะได้
เอาเป็นว่าถ้าคิดจะออกเดินทางจริงๆ ยังไงเราก็จะพยายามหาทางจนได้ไป

ฉันทั้งยอมรับว่าไม่ใช่ลูกที่ดีเท่าไร แต่ที่ฉันทำไปเพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่เป็นห่วง
ฉันเคยขอไปเที่ยวครั้งหนึ่ง บางทีท่านก็อนุญาต บางทีท่านก็ไม่อนุญาต
แต่กว่าจะอนุญาตก็ใช้เวลานานพอสมควร ต้องตอบคำถามอีกร้อยแปดพันเก้า

ฉันจึงตัดปัญหาเหล่านั้น โดย...
ก. หนีไปโดยไม่บอก ข. บอกก่อนไป 1 วัน ค. ไปแล้วค่อยบอก ง. ถูกทุกข้อ
แต่ตอนนี้ที่บ้านเริ่มจะเข้าใจเรื่องความฝันอันนี้ของฉันแล้ว

xxx;


นี่คือการปักหมุดของฉันในระยะเวลาเกือบ 1 ปี หลังจากเรียนจบมัธยม
ฉันไม่ได้ไปเที่ยวบ่อย ไม่ได้ไปทุกเดือน เพราะอย่างที่บอกไปตอนแรกว่าฉันต้องเก็บเงินเอง

ฉันตั้งเป้าไว้ว่า... ใน 1 ปี
ต้องได้ไปต่างประเทศอย่างน้อย 1 ประเทศ
ไปเที่ยวให้ทั่วประเทศไทยก่อนเรียนจบ แค่นั้นเอง

สำหรับฉันนักท่องเที่ยวกับนักเดินทางแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
ในนิยามของฉันเอง นักท่องเที่ยว คือ ไปเที่ยว ไปถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คคูลๆอย่างเดียว ไม่ไปที่แปลกๆ
นอนตามโรงแรมหรือว่าอะไรก็ได้ที่สบายๆ ไม่ต่างไปจากความเคยชินรวมไปถึงอาหารการกิน
ไม่สนใจในวัฒนธรรม หรือตัวตนที่แท้จริงของสถานที่ๆไปมากเท่าไร
ส่วน นักเดินทาง คือเดินทางเพื่อหาสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ลองกินอาหารถิ่น
ลองพูดภาษาถิ่น ไปเที่ยวในที่ที่อยากไป แต่ก็ไม่ได้ยี้แลนด์มาร์คนะ นอนไหนก็ได้แค่มีที่ซุกหัวนอน
แน่นอนฉันเป็นอย่างหลัง ฉันไม่ได้กระแดะนะ แต่มันปฏิเสธไม่ได้

เพราะ...
ฉันบังเอิญไปเจอแบบทดสอบนี้มา ซึ่งส่วนใหญ่ฉันอยู่ฝั่งนักเดินทาง
ยกเว้นเรื่อง ไกด์บุ๊คที่ฉันเคยใช้ตอนไปสิงคโปร์

เครดิต: http://www.palapilii-thailand.com/

แล้วคุณล่ะเป็นอย่างไหน (?)

.....




#มาออกเดินทางกันเถอะ
Tira Chsrpp.




No comments:

Post a Comment