TRAVELLER NOT TOURIST
ปล.ยืมรูปจาก tumblr
เชื่อสิ ว่าหลายคนต้องใฝ่ฝันที่จะได้เดินทางรอบโลก
ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ้าเราไม่ลงมือทำ มันก็คงเป็นได้แค่เพียงฝัน
ฉันถึงต้องเริ่ม... เริ่มออกเดินทาง :)
ฉันเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้มีที่บ้านซัพพอร์ทเรื่องเงินในการไปเที่ยว(จริงๆคือไม่กล้าขอ)
ฉันจึงต้องเก็บออมในส่วนของเงินที่พ่อแม่ให้ใช้จ่ายในแต่ละเดือนไว้
ฉันต้องทำงานเพื่อเก็บส่วนนี้ไว้ไปเที่ยว ที่พูดมานั้น...
ฉันแฮปปี้กับการที่เป็นแบบนี้ เพราะพ่อแม่อยากสอนให้ฉันรู้จักคุณค่าของเงิน
ฉันต้องการเล่า เพื่ออยากให้คนที่มีฝันเหมือนกับฉันกล้าลงมือทำ
รอมีเงินก่อนค่อยเที่ยว แล้วเมื่อไรจะมี (?)
รอมีเวลาก่อนค่อยเที่ยว แล้วเมื่อไรจะมี (?)
เคยได้ยินบางคำพูดไหม 'ตอนเด็กมีเวลาก็ไม่มีเงิน ตอนโตมีเงินแต่ก็ไม่มีเวลา '
'กว่าจะมีเงินมีเวลาก็แก่เกินไปแล้ว สังขารไม่เอื้ออำนวย'
นี่คือสิ่งที่ฉันเตือนตัวเองเสมอ ฉันเถียงขาดใจเลย
เวลาคนเรามีเท่ากัน อยู่ที่การบริหารจัดการมากกว่า อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา
ไม่มีเงิน จริงๆคนเราก็ต้องมีเงินในการใช้จ่ายบ้างแหละ แต่อยู่ที่เราให้สัดส่วนกับตรงไหนมากกว่า
เพื่อนบางคนได้เงินไว้ใช้จ่ายแต่ละเกือนมากกว่าฉัน 4 เท่า กลับไม่มีเงินเก็บเลย
แต่ในทางกลับกัน ฉันมีทั้งเงินเก็บ,เงินสำหรับเที่ยว,เงินสำหรับซื้อของที่อยากได้
เพราะฉันคิดเสมอว่าเราต้องเก็บก่อนใช้ ไม่ใช่ใช้เหลือแล้วค่อยเก็บ
ตั้งใจจะพูดเรื่องเที่ยว ทำไมอยู่กลายมาประเด็นเรื่องออมเงินซะได้
เอาเป็นว่าถ้าคิดจะออกเดินทางจริงๆ ยังไงเราก็จะพยายามหาทางจนได้ไป
ฉันทั้งยอมรับว่าไม่ใช่ลูกที่ดีเท่าไร แต่ที่ฉันทำไปเพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่เป็นห่วง
ฉันเคยขอไปเที่ยวครั้งหนึ่ง บางทีท่านก็อนุญาต บางทีท่านก็ไม่อนุญาต
แต่กว่าจะอนุญาตก็ใช้เวลานานพอสมควร ต้องตอบคำถามอีกร้อยแปดพันเก้า
ฉันจึงตัดปัญหาเหล่านั้น โดย...
ก. หนีไปโดยไม่บอก ข. บอกก่อนไป 1 วัน ค. ไปแล้วค่อยบอก ง. ถูกทุกข้อ
แต่ตอนนี้ที่บ้านเริ่มจะเข้าใจเรื่องความฝันอันนี้ของฉันแล้ว
xxx;
นี่คือการปักหมุดของฉันในระยะเวลาเกือบ 1 ปี หลังจากเรียนจบมัธยม
ฉันไม่ได้ไปเที่ยวบ่อย ไม่ได้ไปทุกเดือน เพราะอย่างที่บอกไปตอนแรกว่าฉันต้องเก็บเงินเอง
ฉันตั้งเป้าไว้ว่า... ใน 1 ปี
ต้องได้ไปต่างประเทศอย่างน้อย 1 ประเทศ
ไปเที่ยวให้ทั่วประเทศไทยก่อนเรียนจบ แค่นั้นเอง
สำหรับฉันนักท่องเที่ยวกับนักเดินทางแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
ในนิยามของฉันเอง นักท่องเที่ยว คือ ไปเที่ยว ไปถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คคูลๆอย่างเดียว ไม่ไปที่แปลกๆ
นอนตามโรงแรมหรือว่าอะไรก็ได้ที่สบายๆ ไม่ต่างไปจากความเคยชินรวมไปถึงอาหารการกิน
ไม่สนใจในวัฒนธรรม หรือตัวตนที่แท้จริงของสถานที่ๆไปมากเท่าไร
ส่วน นักเดินทาง คือเดินทางเพื่อหาสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ลองกินอาหารถิ่น
ลองพูดภาษาถิ่น ไปเที่ยวในที่ที่อยากไป แต่ก็ไม่ได้ยี้แลนด์มาร์คนะ นอนไหนก็ได้แค่มีที่ซุกหัวนอน
แน่นอนฉันเป็นอย่างหลัง ฉันไม่ได้กระแดะนะ แต่มันปฏิเสธไม่ได้
เพราะ...
ฉันบังเอิญไปเจอแบบทดสอบนี้มา ซึ่งส่วนใหญ่ฉันอยู่ฝั่งนักเดินทาง
ยกเว้นเรื่อง ไกด์บุ๊คที่ฉันเคยใช้ตอนไปสิงคโปร์
แล้วคุณล่ะเป็นอย่างไหน (?)
.....
No comments:
Post a Comment