หน้าเว็บ

July 8, 2015

Lost in Rayong: ข้อดีข้อเดียวของการมีแฟนเรียนตจว.





Lost in Rayong ♥
ตอน: ข้อดีข้อเดียวของการมีแฟนเรียนตจว.
วันที่:14-15 มีนาคม 2558

......

เอาจริงๆ การอยู่ไกลกันนี่แทบไม่มีไรดีเลยอ่ะ
มีเรื่องมาเถียงกัน ทะเลาtกันได้ทุกวัน
เพราะระยะทาง เพราะเวลา เพราะความกลัว หรือเพราะความไม่เข้าใจกัน
แต่ที่พูดมานั้นมันก็มีข้อดี(ข้อเดียว) คือ ฉันได้มาเที่ยวที่ใหม่ๆกับคนพิเศษ
.
.
.
.
.
เดี๋ยวๆ ก่อนจะอ่านเนื้อหา
ต้องบอกไว้ก่อนว่าแรกสุดเลยคือเขียนลงพันทิปเพื่อง้อแฟน แต่...
ลบออกแล้วเพราะอายรูป เลยย้ายมาลงที่ blog ส่วนตัว 
เพราะ... blog ฉัน ฉันจะอัพรูปตัวเองเท่าไรก็ได้ ไม่มีใครว่า 5555
แล้วคือแบบมันจะไม่ใช่รีวิวละเอียดแบบอันอื่นที่เคยเขียน
ออกแนวมาอวดรูปมากกว่า ฮาาาาาาา

ถ้ารับสิ่งเหล่านี้ได้ ค่อยเลื่อนลงไปอ่านนะ
1. ทริปนี้รูปฉันเยอะมากกก เพราะปกติแฟนไม่ค่อยถ่ายรูปให้
2. รูปอย่างอื่นก็เยอะมากเช่นกัน แต่งได้แค่สี ไม่ได้ดู composition เลย (เดี๋ยวทริปหน้าแก้ตัว)
3. ทริปนี้ไม่ได้ขึ้นรถโดยสาร รีวิวการเดินทางไม่ได้ รีวิวได้แค่สถานที่ท่องเที่ยวนะจ้ะ <'3

xxx;





ทริปนี้เราสองคนไปเที่ยวกันตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. 58 
เป็นทริปกระทันหันมากๆ เกิดจากฉันไปเยี่ยมย่าที่จันทบุรี แล้วแฟนของฉันเรียนอยู่ระยอง 
ฉันพูดเล่นๆว่า พาไปเที่ยวหน่อยสิ นางก็บ้าจี้ตามฉัน พาฉันไปเที่ยว... 
ทริปนี้จึงบังเกิดขึ้น!!




แค่เริ่มเดินทางก็มีเรื่องตื่นเต้นแล้วว (ยังไม่ทันเริ่ม...ก็จะพาออกทะเลล่ะ)


ฉันต้องไปขึ้นรถตู้จันทุบรี-ระยองที่สี่แยกตรงตลาดนายายอาม 
แม่มาส่งปุ๊บ ฉันก็จะวิ่งข้ามถนนล่ะ แต่เห็นรถกู้ภัยเต็มเลย 
ฉันก็เลยหวั่นๆ เดินอ้อมไปขึ้นสะพานลอยดีกว่า สบายใจ 
เห็นบนสะพานลอยมีไทยมุง ฉันก็คิดว่าคงขึ้นไปดูอุบัติข้างล่างกันเฉยๆ เลยไม่ได้คิดอะไร 
พอเดินไปใกล้ๆไทยมุงก็เจอ ผช วัยกลางคนนอนอยู่กลางวง ฉันก็แบบสงสัยเมาหลับมั้ง(โลกสวยไง)
ก็เดินผ่านๆมา นั่งรอรถตู้สักพัก.... 
คนขายตั๋วถามว่าเรามาไงบลาบลา ได้ความมาว่า... 
คนที่เราเห็นนอนอยู่บนสะพานลอยเขาผูกคอกับราวสะพานแล้วกระโดดลงมา #RIP



ฉันใช้เวลาเดินทางจากนายายอามถึง บขส.ระยองประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีได้ 
มาถึงคุณแฟนก็มารับไปที่พัก จุดหมายปลายทางแรกของเราในวันนี้ คือ...
ไปดูพระอาทิตย์ตกที่เขาแหลมหญ้า... 
ทำไมต้องเขาแหลมหญ้าหรอ เพราะฉันงอแงอยากมานานแล้ว คุณแฟนคงจะรำคาญ 55






เราสองคนใช้เส้นทางเลาะริมชายหาดตั้งแต่แยกบ้านเพมาเรื่อยๆจนถึงเขาแหลมหญ้า
เราถึงอช.เขาแหลมหญ้าประมาณ 5 โมงเกือบ 6 โมงเย็นได้ 
เสียค่าเข้าไปคนละ 20฿ พร้อมกับได้แผนที่มา 1 ใบ






นักท่องเที่ยวมีจำนวนไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่มาพักที่นี่ 
แล้วก็พวกตากล้องมาถ่ายรูปถ่ายแบบถ่ายพรีเวดดิ้งกันเต็มเลย ><












บรรยากาศเงียบๆแบบนี้ อากาศตอนเย็นก็ไม่ร้อนมาก 
สถานที่และวิวสวยๆ ทำให้ฉันหลงรักที่นี่จนถอนตัวไม่ขึ้นซะแล้วว




























ตากล้องของทริปนี้ 555 ด้วยความที่ขาตั้งกล้องก็ไม่ค่อยสมประกอบ พื้นก็ไม่เสมอ 
กำลังนั่งเก็กๆกันอยู่ ลมพัดมา~ ฟิ้วว กล้องล้มไปนอนกับพื้น
ฉันรีบวิ่งไปด้วยความเร็วแสง สภาพเยินมาก เพราะล้มใส่โขดหินแรงพอสมควร
ร่องรอยอารยธรรมมาเต็มไม่เท่าไร ตัวอ่านเมมฯดันอ่านได้บ้างไม่ได้บ้าง เป็นอันต้องอดการถ่ายรูปคู่ ;____;
 







ตอนแรกที่บอกจะมาดูพระอาทิตย์ตกใช่ป่าว ไม่ได้ดูหรอกนะ 
อย่าคิดว่าแฟนฉันจะโรแมนติกขนาดน้านน << อันนี้แค่เหตุผลรอง 
เหตุผลหลักจริงๆคือ เราสองคนเดินถ่ายรูปเล่นๆกันมาเรื่อยๆ (ตรงเส้นทางศึกษาธรรมชาตินั่นแหละ) 
แต่เราเดินย้อนจากจุดที่ 10-1 แล้วคนส่วนใหญ่เขาเดินจากจุดที่ 1-10 
ซึ่งช่วง 1-4 เป็นป่า ป่าเกือบทึบเลยแหละ เราเลยกลัวมืดแล้วไม่มีเพื่อนกลับ ก็เลยรีบเผ่นก่อนดีกว่าา





















ปล.ใครที่จะเดินฉันแนะนำเดินจุดที่ 1-10 ดีกว่านะ เพราะเดินย้อนแบบฉันต้องขึ้นเขา


ส่วนมื้อเย็นเรากลับเข้าเมือง ไปฝากท้องกันตลาดสตาร์ไนท์บาร์ซ่า 
ก็คล้ายๆตลาดนัดทั่วๆไป แต่ของกินเยอะมากก ราคาไม่แรงด้วย (แต่ไม่มีรูปนะครัช เพราะหิวจนตาลาย)

......


วันนี้ตื่นแต่เช้าตั้งใจจะไปเกาะขาม(เช้ามากกก)


ไปถึงเกาะขามเรือเต็มหมดแล้ว... อดสิครับงานนี้ 
อุตส่าห์แว้นมอไซต์ข้ามจังหวัดมา 555 เราก็คิดกันอยู่ว่าจะไปไหนต่อดี 
แต่ที่แน่ๆเกาะแสมสารเราไปกันแล้ว ถ้าจะไปก็ต้องไปที่อื่น ฉันจำได้ว่าเคยอ่านรีวิวเจอหาดน้ำใส 
ก็เลยตกลงกันว่าไปหาดน้ำใสแล้วกัน









    

ปล.อยากรู้อะไรถาม จนท.ที่เขาคอยเปิดประตู/โบกรถได้เลย



มากัน 2 คนหลายคนคงสงสัยว่าจะเล่นน้ำพร้อมกันได้ไง 

เราเดินไปตรงที่ที่ห่างไกลจากคนแล้วก็เอาเสื่อห่อของไว้ ถึงลงไปเล่นน้ำกันน 
(ไม่กล้าฝากของกับใครทั้งนั้น ฮาา)











เล่นน้ำจนเหนื่อยเราก็คุยกันว่ากลับเถอะ แล้ววันนั้นคนเยอะมาก พีคมาก 

จะเช่าเสื่อต้องยืนรอ สั่งของมากินรอเป็นชม. ที่จะนั่งไม่มีที่ร่มๆ ห้องน้ำแถวยาวมาก 
เลยสรุปกันว่ากลับไปอาบที่บ้านแล้วกัน(บ้านที่แฟนฉันเช่าอยู้กับเพื่อน อยู่นิคมพัฒนา) 
อยากถามแฟนว่า... จิตใจทำด้วยอะไรคะ ทั้งๆที่ตัวเปียกน้ำเค็ม+ใส่ขาสั้น 
พาแว้นมอไซต์กลับตอนเที่ยง ถึงดิฉันจะดำขนาดนี้ก็สามารถดำไปมากกว่านี้ได้นะคะ -3-











.....


อยู่ไปอยู่มานางคงกลัวฉันเหงา เลยพาไป Strawberry Town 
ระหว่างทางก็ชิลล์ๆนะ พอถึงทางเข้าเท่านั้นแหละงานโค้งเริ่มมา งานขึ้นเขาก็มา 
(ถ้าใครเคยอ่านทริปเชียงใหม่จะรู้ว่าฉันมีปม) ก็พยายามไม่อะไรมาก ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย
























ที่ Strawberry Town เสียค่าเข้าคนละ 60฿ 
หางบัตรสามารถนำไปแลกอาหารปลา/แกะได้ 3 ถุง 
เราไปตอนใกล้ปิดแล้ว คนเลยน้อยมากก ถ่ายรูปกันได้อย่างสบายใจ 
บรรยากาศที่นี่ดีนะฉันว่า แต่อยู่ไกลไปหน่อย+ระหว่างทางเข้าก็น่ากลัวนิดๆ











ระหว่างทางกลับบ้าน ผ่านตลาดน้ำเกาะกลอยด้วย (อยู่ในปั๊ม ปตท.) 
นางเลยพาฉันแวะ ตอนแรกฉันคิดว่าจะเป็นตลาดน้ำเล็กๆไรงี้ 
พอไปเดินจริงๆมันกว้างมากก (ก.ไก่ล้านตัว)





#เจอกันใหม่ทริปหน้า
Tira Chsrpp.

No comments:

Post a Comment