จริงๆมีบล็อคที่ draft ไว้เยอะมาก
แต่ไม่มีเวลาเลือกรูปเลยไม่ได้อัพสักที เลยเลือกอันท่ีรูปน้อยที่สุดก่อนแล้วกัน
My Dream Destination: USA
ฉันอยากไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกามาก
ตอน ม.4 ฉันสอบโครงการแลกเปลี่ยน ผ่านขั้นตอนเลือกประเทศ ไปจนถึงขั้นตอนจ่ายเงิน
และฉันก็เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้ายก่อนจ่ายเงิน
ตอน ม.5 ฉันสอบโครงการแลกเปลี่ยนอีกโครงการที่ได้รับการยอมรับมากกว่าโครงการแรก
และฉันก็ทำมันได้ แต่ฉันกลัวความผิดหวัง(ที่พ่อแม่จะไม่ให้ไป) ฉันเลยเลือกที่จะหยุดอยู่ที่การไม่ไปสัมภาษณ์
.
.
.
ย้อนไปที่เดือนตุลาคม 2557
ก่อนปิดภาคเรียนที่ 1 อุดมศึกษาปีที่ 1
ฉัน: อยากไป work&travel อ่ะ
ก: เห้ยย ไปด้วยดิ แต่กุไม่ค่อยมีเงินอ่ะ
ด้วยความที่อยากให้เพื่อนไปด้วยกัน ฉันจึงพยายามหาโครงการที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า
จนได้มาเจอกับโครงการนี้ :)
ช่วงที่เราสองคนกำลังหาข้อมูลอยู่นั้น เป็นช่วงเดียวกันที่โครงการมาจัดสัมนาที่โคราช
แต่... เราสองคนก็พลาด เพราะว่ามาเห็นช้าไป
เราสองคนจึงตัดสินใจไปสัมนาที่กรุงเทพฯแทนแล้วกัน
ในวันสัมนาได้มีการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษด้วย
ด้วยความที่ฉันคิดว่าไหนๆก็มาแล้ว ลองสอบดูจะเป็นอะไรไป
และแล้วฉันก็ผ่านมาอย่างหวุดหวิดที่ระดับ 4 พอดีไม่ขาดไม่เกิน
ฉันปล่อยเวลามาเนิ่นนานที่ยังไม่ส่งใบสมัคร
เพราะฉันไม่มีเวลาไปเก็บชม.สักทีเพราะต้องเรียนตลอด ปิดเทอมฉันก็ไปเก็บไม่ได้
วันหยุดก็ห่วงเที่ยวมากกว่า (พูดง่ายๆคือตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจกับมันเต็มที่)
ทุกครั้งที่ฉันคิดจะล้มเลิก คิดจะถอดใจ
พี่เจ้าหน้าที่ก็โทรมาหาฉันอยู่เรื่อยๆว่าไปถึงไหนแล้ว
ฉันประทับใจมากที่พี่เขาโทรมาตามฉันอยู่เรื่อยๆ มันทำให้ฉันมีไฟขึ้นมา
บอกตรงๆว่าฉันก็แอบเกรงใจพี่เขาเหมือนกัน อยากจะบอกว่าไม่ไปแล้วค่ะ
แต่ก็ทำได้แค่ตอบไปเลี่ยงๆว่ากำลังทำอยู่ค่ะ
เดือนกุมภาพันธ์ 2558
ในที่สุด... จุดเปลี่ยนก็มาถึง
เพื่อนฉันลาออกจากมหาวิทยาลัยเพราะเรียนไม่ไหว
ส่วนฉันก็เบื่อหน่ายกับการเรียนเต็มที (ฉันคิดว่าชีวิตเราควรมีอะไรมากกว่าเรื่องเรียน)
ในที่สุดฉันก็เลยตัดสินใจไปเก็บชั่วโมงสักที
ฉันต้องทำทุกอย่าเหมือนคนที่ทำงานจริงๆ เผลอๆยังหนักกว่าอีก
จากเป็นคนตื่นสายฉันก็ต้องตื่นเช้าและกลับบ้านเย็นทุกวัน
จริงๆ หัวหน้างานพร้อมจะเซ็นต์รับรองให้ฉันโดยไม่ต้องทำงานด้วยซ้ำ
แต่พ่อกับแม่ฉันไม่ต้องการแบบนั้น... ท่านอยากให้ฉันได้รู้จักกับโลกความเป็นจริง ชีวิตจริงของคนเรา
ฉันค่อนข้างโชคดีที่ที่บ้านคอยซัพพอร์ทในทุกๆอย่างที่ฉันอยากทำ และท่านเห็นด้วยว่ามันดี
พ่อแม่ฉันไม่สปอยด์ลูกจนเกินไปด้วย อยากได้อะไรอยากซื้ออะไรนอกจากจะคุยกันด้วยเหตุผลแล้ว
ฉันยังต้องมีส่วนร่วมในการออกเงินด้วย เพราะอะไรที่เราได้มาง่ายๆ เรามักจะไม่เห็นค่าของมัน
31 มีนาคม 2558
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ฉันเก็บชั่วโมงที่นี่
ฉันรู้สึกรักและผูกพันธ์กับทุกคนที่นี่มาก เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากที่นี่ ได้รู้ว่าคนมีหลายประเภทมาก
แต่อีกใจฉันก็แอบดีใจที่มันผ่านพ้นไปสักที ฉันจะได้ไม่ต้องตื่นเช้าอีกแล้ว
ฉันปล่อยเวลาผ่านล่วงเลยไปอย่างเปล่าประโยชน์
เพราะฉันกำลังสนุกกับการเดินทาท่องเที่ยว
ฉันไม่ได้สนใจเรื่องการเซ็นต์ใบรับรองเลยสักนิด
เดือนพฤษภาคม 2558
ในที่สุดฉันก็ได้จัดการเรื่องเอกสารจนครบถ้วน
และได้ออนไลน์ตั้งแต่นั้นมา
บอกตรงๆว่าช่วงแรกๆฉันเช็คแอคเค้าท์ของตัวเองทุกวัน
แต่เมื่อเวลามันผ่านไป ฉันก็เข้ามาเช็คบ้างตามโอกาส
.
.
.
เดือนกุมภาพันธ์ 2559
ตลอดเวลาเกือบ 9 เดือนที่ผ่านมา
มีโฮสท์มาถือโปรไฟล์ฉันถึง 14 ครอบครัว
ติดต่อกันจริงๆ 7 ครอบครัว และ skype กันแค่ 5 ครอบครัว
ฉันรู้ว่าข้อด้อยของฉันคือ...
ฉันอายุน้อยเกินไป
ภาษาอังกฤษฉันยังกะเหรี่ยงอยู่เลย
แรกๆฉันก็เสียใจนะที่โฮสท์ไม่เลือก
พยายาม improve ตัวเองเยอะมาก
แต่ผลลัพธ์มันก็ยังเป็นเหมือนเดิม
ฉันเลยมาลองคิดๆดูว่าโฮสท์ก็เหมือนเนื้อคู่ของเรานั่นแหละ
ถึงเวลาถ้ามันใช่ ทุกอย่างจะใช่อย่างไม่มีข้อแม้
แต่ถ้ามันไม่ใช่ ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่ใช่อยู่ดี
ฉันเห็นคนรอบตัวฉัน คนที่ฉันรู้จักที่ไปกับโครงการนี้
เจอกับประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดี มันทำให้ฉันเองก็กลัวอยู่เหมือนกัน
ขนาดคนอื่นดีกว่าฉันทุกอย่าง ยังเจอแบบนี้ แล้วฉันล่ะ
ฉันกลัวถึงขนาดไม่ตอบโฮสท์ไม่คุยกับใคร เพราะฉันไม่อยากไปแล้ว
ในที่สุดวันของฉันก็มาถึง
ครอบครัวนี้เข้ามาในช่วงที่ฉันงอนพ่อแม่ที่ฉันขอไปเที่ยวแล้วไม่ให้ไป
ตอนนั้นฉันนอยด์มากที่ฉันอายุขนาดนี้แล้ว ไปมาตั้งหลายที่แล้ว มีเพื่อนไปด้วย ทำไมพ่อแม่ไม่ให้
ตั้งแต่ทริปเชียงใหม่ ลงใต้ สุพรรณ 3ทริป เพื่อน3กลุ่ม 3เวลา พ่อแม่ล้วนไม่ให้
เป็นช่วงเดียวกันที่ครอบครัวนี้ถือโปรไฟล์ฉันไว้ และอีเมลล์มาหา
ครั้งแรกสุดฉันต้อง skype กับแด็ด โดยแด็ดบอกว่า 8 โมงที่ประเทศไทยโดยไม่เขียน am/pm
ฉันเลยเข้าใจว่า 8 โมงเช้าวันพรุ่งนี้ แต่ที่ไหนได้...
ตอน2ทุ่มฉันนั่งกินข้าวกับครอบครัวอยู่ แด็ดคอลล์สไกคป์มาพอดี
แบบโคตรไม่พร้อม ยังไม่ได้อ่านข้อมูลเลย
แถมยังสายตั้งแต่นัดครั้งแรกอีก ตายๆๆ
ฉันคิดว่ายังไงเขาก็ไม่เลือกฉันแน่
เพราะเขาบ่นเรื่องภาษาของฉัน
วันต่อมาฉันคุยกับมัม
ซึ่งวันนี้ฉันมาตรงเวลา แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่่ควรเช่นเดิม
หลังจากสไกคป์กันแล้ว มัมรู้สึกถูกชะตากับฉัน แต่ก็ยังมีปัญหากับปัญหาของฉัน
เลยของสไกคป์อีกรอบ และในที่สุดฉันก็ทำมันได้สำเร็จ
แด็ดยอมให้มัมเลือกฉัน
โดยให้ฝึกภาษาจากที่นี่ แล้วไปเรียนสำเนียงเอาที่นู่น
ฉันดีใจมาก ดีใจอย่างบอกไม่ถูก
เพราะฉันประสบความสำเร็จในชีวิตอีกขั้นแล้ว
ฉันจะมีโอกาสได้ทำตามฝันของตัวเองแล้ว
#cantwaittoseeyou
Tira Chsrpp.